5 เรื่องต้องรู้ของ “อิบราฮิมา โคนาเต้” ว่าที่ปราการหลังคนใหม่ของหงส์แดง

5 เรื่องต้องรู้ของ “อิบราฮิมา โคนาเต้” ว่าที่ปราการหลังคนใหม่ของหงส์แดง

หากไม่มีอะไรผิดพลาด อิบราฮิมา โคนาเต้ กำลังจะกลายมาเป็นผู้เล่นคนใหม่ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลหน้า หลังจากที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน รายงานว่าสโมสรจากแถบเมอร์ซีย์ไซด์ยินดีที่จะจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาประมาณ 34 ล้านปอนด์ให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ต้นสังกัดของแข้งชาวฝรั่งเศส วัย 21 ปร เพื่อเสริมแกร่งในแนวหลังและพยายามป้องกันไม่ให้มีฤดูกาลอันย่ำแย่ซ้ำรอยเดิมแบบในซีซั่นนี้อีก

และนี่คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ โคนาเต้

  1. ตำแหน่งและสไตล์การเล่น

โคนาเต้ เป็นกองหลังยุคใหม่ที่มีความสามารถในการพาบอลขึ้นไปข้างหน้าโดยที่ตำแหน่งของเขามักจะอยู่ที่ฝั่งขวาทั้งในแผน 2 และ 3 เซ็นเตอร์

ด้วยความสูงที่ 193 เซนติเมตร เทียบเท่ากับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เขาจึงชนะการดวลกลางอากาศเป็นจำนวนมาก และด้วยร่างกายที่กำยำการเข้าปะทะจึงเป็นอีกจุดแข็งของเขาไปโดยปริยาย

  1. ต้องระวังเรื่องอาการบาดเจ็บ

แม้จะเพิ่งอายุ 21 ปี แต่โคนาเต้มาพร้อมกับประวัติการบาดเจ็บที่โชกโชนซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเล็กน้อย

ในช่วงที่ยังอยู่กับอะคาเดมีของโซโชซ์ เขาจำต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่สะโพก ก่อนที่ในฤดูกาล 2019/20 เขาจะต้องเข้ารับการผ่าตัดซ้ำอีกถึง 2 ครั้งในด้วยอาการเดิม จนทำให้สามารถลงสนามไปได้เพียง 8 เกมเท่านั้น

ในขณะที่ฤดูกาลนี้ เจ้าตัวต้องพักฟื้นจากอาการเจ็บข้อเท้าไปอีก 2 เดือนด้วยกัน

  1. ภาษาไม่ใช่ปัญหา

โคนาเต้ยอมรับว่าลำบากเล็กน้อยเรื่องการเรียนภาษาเยอรมันในช่วงแรกๆที่ย้ายมายังไลป์ซิก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ผ่านมันมาได้ แถมในตอนนี้เจ้าตัวมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่เข้าขั้นดีอยู่แล้ว จนเกือบจะเหมือนกับว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกยังไงยังงั้นเลย

  1. ความเร็วเป็นเลิศ

ราล์ฟ รังนิค อดีตผู้อำนวยการสโมสรไลป์ซิกเคยเปิดเผยว่า โคนาเต้เป็นผู้เล่นที่เร็วที่สุดในทีมหากนับเฉพาะการสปรินต์ระยะ 100 เมตร ดังนั้น มันจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาหากเขาต้องดวลกับเหล่าตัวรุกความเร็วสูงในเกาะอังกฤษ

  1. มี เซร์คิโอ รามอส เป็นไอดอล

การยอมรับว่ามี เซร์คิโอ รามอส เป็นไอดอลอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนักในลิเวอร์พูล เมื่อมองย้อนกลับไปว่าว่าแข้งชาวสเปนเคยมีประวัติไม่ค่อยดีกับซูเปอร์สตาร์ในทีมมาก่อน

แต่หากมองในแง่ดี นั่นหมายถึงว่า โคนาเต้เลือก 1 ในผู้เล่นกองหลังที่สุดในโลกไว้เป็นแบบอย่าง พร้อมกับยังเคยยอมรับว่าได้ศึกษาสไตล์การเล่นของ เคราร์ด ปิเก อีกหนึ่งกองหลังชื่อดังชาวสเปนอยู่ตลอดเพื่อหวังที่จะพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอีกด้วย

“เกลเซอร์” การันตี “ซูเปอร์ลีก” จะเป็นประวัติศาสตร์บทใหม่แห่งวงการฟุตบอลยุโรป

“เกลเซอร์” การันตี “ซูเปอร์ลีก” จะเป็นประวัติศาสตร์บทใหม่แห่งวงการฟุตบอลยุโรป

โจเอล เกลเซอร์ เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตั้งลีกใหม่ อย่างรายการ European Super League ที่มีทีมปีศาจแดงร่วมในลีกนี้ด้วย

เกลเซอร์ ได้เปิดเผยกับ บีบีซี สื่อชื่อดังของอังกฤษ ว่า “การนำสุดยอดสโมสรชั้นนำ ที่มีนักฟุตบอลชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ มันจะนำมาซึ่งประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่สุดสำคัญให้แก่วงการฟุตบอลยุโรป”

“ผลรับประกันในเรื่องของการแข่งขันระดับโลกของทีมใหญ่ๆ ที่จะมาแข่งขันแบบเต็มที่ ในทุกสัปดาห์อย่างเข้มข้น และแน่นอนว่าการเพิ่มเรื่องเงินรางวัล น่าจะเป็นผลดีในวงกว้างให้แต่ละสโมสรในลีกนี้”

ทั้งนี้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา 12 สโมสรยักษ์ใหญ่ในทวีปยุโรป ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาพร้อมที่จะจัดตั้งการแข่งขันลีกใหม่ที่ใช้ชื่อ “European Super League” โดยไม่สนคำขู่ของยูฟ่า และ ฟีฟ่า แต่อย่างใด

โดยการประชุมร่วมของศึก “European Super League” จะมี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เป็นประธานของการแข่งขันลีกใหม่นี้ และคาดว่าผลตอบแทนของรายการนี้ คือเม็ดเงินอันมหาศาลหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับรายการยุโรปของยูฟ่า และ ฟีฟ่า

มีเสียวท้ายเกม! เวสต์แฮม เปิดรังทุบ เลสเตอร์ 3-2 ยึดท็อปโฟร์แน่น

มีเสียวท้ายเกม! เวสต์แฮม เปิดรังทุบ เลสเตอร์ 3-2 ยึดท็อปโฟร์แน่น

การแข่งขัน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบกับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2564

เปิดเกมมา 7 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นก่อนเลย แอรอน เครสส์เวลล์ โหม่งสกัดไปเข้าทาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ได้กดด้วยขวาในเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล

นาทีที่ 29 เจ้าบ้านที่บุกน้อยกว่าทำเกมขึ้นมาบ้าง วลาดิเมียร์ คูฟัล เปิดบอลถึง เจสซี่ ลินการ์ด ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0

นาทีที่ 44 “ขุนค้อน” โต้กลับอีกหน จาร์รอด โบเว่น หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนจ่ายให้ เจสซี่ ลินการ์ด ยิงโล่งๆ เข้าประตูไป เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทิ้งเป็น 2-0 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 48 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทิ้งเป็น 3-0 จากจังหวะที่ โทมัส ซูเช็ค กระชากเข้าเขตโทษแล้วเปิดบอลให้ จาร์รอด โบเว่น ซัดระยะเผาขนส่งบอลตุงตาข่าย

นาทีที่ 70 เลสเตอร์ ซิตี้ ไล่มาเป็น 1-3 เมื่อ ริคาร์โด้ เปเรยร่า จ่ายบอลให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลากเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายตุงตาข่ายไม่เหลือ

ช่วงทดเจ็บ 90+1 ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดบอลไปติดแนวรับบอลกระดอนไปเข้าทาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ตามซ้ำระยะเผาขนเข้าไป เลสเตอร์ ซิตี้ ไล่มาเป็น 2-3
AdvertisementReplay Ad

อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านเบียดเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-2 คว้าสามแต้มแบบลุ้นเหนื่อย ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ตามเดิม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


เวสต์แฮม (4-2-3-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ – วลาดิเมียร์ คูฟัล, เคร็ก ดอว์สัน, อิสซ่า ดิย็อป, แอรอน เครสส์เวลล์ (ฟาเบียน บัลบูเอน่า น.53) – โทมัส ซูเช็ค, มาร์ค โนเบิ้ล (เบน จอห์นสัน น.82) – ปาโบล ฟอร์นัลส์, เจสซี่ ลินการ์ด, อาร์กตูร์ มาซูอากู – จาร์รอด โบเว่น (ซาอิด เบนราห์มา น.84)
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – แดเนี่ยล อมาร์ตีย์ (ลุค โธมัส น.46), จอนนี่ อีแวนส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ติโมธี คาสตาญ – เดนนิส ปราต (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.59) – เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้

นายสั่งมา! “ฟาบินโญ่” เผยความในใจบทบาทจำยอมกองหลังในทีมลิเวอร์พูล

นายสั่งมา! “ฟาบินโญ่” เผยความในใจบทบาทจำยอมกองหลังในทีมลิเวอร์พูล

ฟาบินโญ่ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ของ ลิเวอร์พูล ออกมายอมรับตามตรงแล้วว่า ในช่วงแรกๆ ที่ถูกเปลี่ยนตำแหน่งไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก ตนไม่สนุกกับการเล่นฟุตบอลเลยแม้แต่นิดเดียว

“ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้สิ่งสำคัญต่าง ๆ มากมายจากการถูกโยกลงไปเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คให้ทีมระดับ ลิเวอร์พูล” แข้งแซมบ้า กล่าวกับ สกาย สปอร์ตส์

“แน่นอนว่าผมเติบโตขึ้นจากประสบการณ์ครั้งนี้พอสมควรเลย แถมยังพอใจกับผลงานโดยรวมและได้รับเสียงชื่นชมค่อนข้างมาก แต่คุณรู้อะไรไหม? ความเป็นจริงคือ มันไม่ใช่สนุกเอาซะเลย”

“ช่วงแรกๆ ที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่ง คือมันแย่มาก แต่ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมที่คอยช่วยเหลือเต็มที่ และเมื่อผมก้าวผ่านวันเวลาอันยากลำบากได้ ก็รู้สึกถึงฝีเท้าที่สูงส่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า”

“ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมถึงวิธีเล่นป้องกันใหม่ๆ การอ่านเกม แท็คติกต่างๆ มากมาย การบัญชาเกมรับช่วยยกระดับความเป็นผู้นำได้อย่างมหาศาลอีกด้วย ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพอยืนตำแหน่งนั้นแล้วจะมองเห็นทุกอย่างในสนามชัดเจนสุดๆ มันคือประโยชน์อย่างแท้จริง”