เจ้าตัวยันเอง! “เอ็มบัปเป” เผยถูก ลิเวอร์พูล จีบก่อนสุดท้ายเลือกอยู่ปารีสต่อ

เจ้าตัวยันเอง! “เอ็มบัปเป” เผยถูก ลิเวอร์พูล จีบก่อนสุดท้ายเลือกอยู่ปารีสต่อ

คีเลียน เอ็มบัปเป สตาร์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยืนยันว่า เรอัล มาดริด ไม่ใช่สโมสรเดียวที่เขาเจรจาด้วย ก่อนที่จะตัดสินใจต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีกจนถึงปี 2025

กองหน้าวัย 23 ปี ทำท่าว่าจะได้ย้ายไปเล่นในลาลีกาแบบไร้ค่าตัว ขณะที่สัญญาของเขากำลังจะหมดลงในช่วงสิ้นเดือนหน้า ทว่าหลังจากที่ประวิงเวลากันอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดเขาก็ยืนยันว่าจะขออยู่ค้าแข้งต่อในลีกเอิง พร้อมรับค่าเหนื่อยระดับ 1 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์และเงินกินเปล่าที่คาดการณ์กันว่าน่าจะไม่น้อยกว่า 100 ล้าน

อย่างไรก็ดี ในการให้สัมภาษณ์กับ เดอะ เทเลกราฟ เขาได้เปิดเผยด้วยว่า ลิเวอร์พูล เป็นอีกทีมที่ได้ติดต่อมาหาเขาจริงๆ ตามข่าวลือที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน

“เราคุยกันนิดหน่อย” เขายอมรับ

“ผมคุยกับ ลิเวอร์พูล เพราะเป็นสโมสรโปรดของแม่ แม่รัก ลิเวอร์พูล แต่ไม่รู้ทำไมนะ อันนั้นต้องถามเธอเอาเอง”

“พวกเขาเป็นสโมสรใหญ่ อันที่จริงเราเคยเจอกันมาก่อนด้วยเมื่อ 5 ปีก่อนด้วย ตั้งแต่สมัยผมอยู่กับ โมนาโก”

ถามกันมาเยอะ! “คล็อปป์” เปิดใจดีล “เอ็มบัปเป้” กับ ลิเวอร์พูล มีโอกาสแค่ไหน

ถามกันมาเยอะ! “คล็อปป์” เปิดใจดีล “เอ็มบัปเป้” กับ ลิเวอร์พูล มีโอกาสแค่ไหน

เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกมายอมรับตามตรงแล้วว่าตนอยากได้ คีลียัน เอ็มบัปเป้ เข้ามาร่วมงานด้วยจริง ๆ ตามข่าวลือ แต่จะไม่โดดเข้าไปร่วมวงล่าลายเซ็นต์ร่วมกับคู่แข่งอื่น ๆ เด็ดขาด เพราะค่าเหนื่อยสูงเกินกว่าที่เพดานสโมสรจะรับมือไหวนั่นเอง

“ถามว่าผมจะพา ลิเวอร์พูล โดดลงไปร่วมวงล่าตัว คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในช่วงตลาดซัมเมอร์เหมือนกับทีมใหญ่อื่น ๆ ไหมน่ะเหรอ ? คำตอบชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่ !” คล็อปป์ กล่าวพร้อมหัวเราะร่วนกลางงานแถลงข่าว

“สำหรับวันเดอร์คิดที่ชื่อ คีลียัน เอ็มบัปเป้ เขาเก่งมาก มีพรสวรรค์สูงมากจริง ๆ และผมก็อยากได้ตัวมาร่วมงานด้วยที่ ลิเวอร์พูล เหมือนกับโค้ชคนอื่น ๆ นั่นแหละ มีใครบ้างล่ะที่ไม่อยากเทรนเด็กคนนี้”

“นั่นคือคำชื่นชมที่ผมมีต่อเขา แต่ถ้าหากเป็นเรื่องการเซ็นสัญญาย้ายทีมก็ต้องสารภาพตรง ๆ ว่าไม่มีอะไรจะพูดเลย แม้ข่าวลือต่าง ๆ จะออกมาหลายกระแสและฟังดูเป็นเหตุเป็นผล แต่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมันแม้แต่นิดเดียว”

“อนาคตระหว่าง เอ็มบัปเป้ กับ ลิเวอร์พูล มันถูกกำหนดเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มีวันบรรจบกันได้แน่นอน ซึ่งผมโอเคกับสถานการณ์เหล่านี้ด้วยความจริงใจ แม้จะเสียดายไปบ้างก็ตาม”

“คอลูกหนังทั้งโลกต่างก็หลงใหลในฝีเท้าของ เอ็มบัปเป้ กันทั้งนั้นแหละ ถ้าหากมีใครไม่ชอบและบอกว่าเกลียดวิธีการเล่นฟุตบอลของเขา ผมว่าคุณต้องหันกลับไปถามตัวเองแล้วล่ะว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ?”

“ย้ำอีกครั้งนะ ผมจะไม่โดดเข้าไปร่วมวงล่าตัว เอ็มบัปเป้ เด็ดขาด ลิเวอร์พูล ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับดีลนี้ด้วยเลยแม้แต่น้อย และด้วยความที่เขาคือนักเตะระดับโลก จึงมีทีมระดับมหาอำนาจเข้าไปรุมจีบมากมาย ซึ่งมันคือเรื่องธรรมดา”

อารมณ์ประมาณนี้เลย! “เชอรี่ สามโคก” เคลื่อนไหวหลัง เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล

อารมณ์ประมาณนี้เลย! “เชอรี่ สามโคก” เคลื่อนไหวหลัง เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล

ต้องบอกว่าอกหักซ้ำสองสำหรับ “เชอรี่ สามโคก” หรือ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ นางแบบสาวสุดเซ็กซี่แฟนพันธุ์แท้ของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมดังจากเกาะอังกฤษ ที่ตามเชียร์ทุกนัด

โดยหลังเกมที่ทีมรักตกเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษ 5-6 พลาดหยิบแชมป์ เอฟเอ คัพ แถมยังเป็นการซ้ำรอยเดิมหลังก่อนหน้านี้ก็พลาดแชมป์ คาราบาว คัพ ด้วยการแพ้จุดโทษ “หงส์แดง” มาเหมือนกัน

ซึ่งหลังจบการแข่งขันในช่วง 120 นาที นางแบบสาวก็ได้เขียนข้อความ “จุดโทษจนได้” ก่อนที่หลังจบเกมที่ เชลซี เป็นฝ่ายแพ้ เธอก็อัดคลิปอยู่ในสภาพสุดเซ็งพร้อมข้อความ “อารมณ์เด็กเชลซี” และเลือกใช้เพลงหมากเกมนี้ บ่งบอกว่าเธอพอจะคาดเดาผลได้ทันทีเมื่อต้องตัดสินเกมด้วยการดวลจุดโทษ

สำหรับ เชอรี่ สามโคก เข้าวงการจากการเป็นนักแสดงสมทบ จากนั้นก็มีโอกาสได้ถ่ายแบบเซ็กซี่แล้วผันตัวไปเล่นหนังอีโรติก ก่อนที่จะตัดสินใจอำลาวงการหนังแผ่นเซ็กซี่ แต่ปัจจุบันยังคงรับงานแสดง งานถ่ายแบบ และงานโชว์ตัวให้แฟนๆ ได้เห็นกัน รวมถึงรับงานแปลเอกสาร งานซับไตเติ้ลภาพยนตร์ และมีธุรกิจบ้านเช่า

ซึ่งปัจจุบันเธอมีแฟนคลับมากมายทั้งใน อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก ที่มียอดผู้ติดตามทะลุเกิน 1 ล้านเป็นที่เรียบร้อย เห็นแบบนี้ต้องบอกว่า ความเซ็กซี่ และเสน่ห์ของเธอครองใจบรรดาแฟนคลับได้มากทีเดียว

ตามหลังสองลูก! ลิเวอร์พูล ลุ้นระทึกบุกรัวแซง บียาร์เรอัล 3-2 ทะลุชิงเจ้ายุโรป

ตามหลังสองลูก! ลิเวอร์พูล ลุ้นระทึกบุกรัวแซง บียาร์เรอัล 3-2 ทะลุชิงเจ้ายุโรป

การแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ระหว่าง “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล พบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนาม เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก้า เมื่อคืนวันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565

เปิดเกมมาเพียงแค่ 3 นาที บียาร์เรอัล มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เปร์วีส เอสตูปินญาน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ เอเตียนน์ กาปู วิ่งเติมมาตบย้อนให้ บูลาย เดีย ยิงตุงตาข่าย

นาทีที่ 10 ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษบอลถึง ดีโอโก้ โชต้า ได้ยิงแต่ไหลผ่านหน้าประตูหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 41 เจ้าบ้านเปิดเกมได้สวย เปา ตอร์เรส วางบอลยาวออกขวาถึง เอเตียนน์ กาปู พาบอลขึ้นหน้าก่อนเปิดไปเข้าหัว ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ที่วิ่งโฉบมาโขกเสียบเสาเข้าไป บียาร์เรอัล นำห่าง 2-0 พร้อมหมดครึ่งแรก

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 62 “หงส์แดง” พยายามเจาะแนวรับเจ้าบ้าน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลขึ้นทางขวาก่อนจ่ายยัดเข้าเขตโทษถึง ฟาบินโญ่ ได้ยิงลอดขา เคโรนีโม่ รูยี่ เข้าไป ลิเวอร์พูล ไล่มา 1-2

นาทีที่ 67 ทีมเยือนเดินเกมต่อเนื่อง อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กระชากขึ้นหน้าก่อนเปิดด้วยซ้ายเข้าเขตโทษ หลุยส์ ดิอาซ ตัวสำรองวิ่งโขกกดลงพื้นส่งบอลซุกก้นตาข่าย ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 2-2

เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 74 ทีมเยือนเดินหน้าต่อ นาบี เกอิต้า หวดสวนขึ้นหน้าให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเดี่ยวครึ่งสนามก่อนแตะหนี เคโรนีโม่ รูยี่ แล้วดึงจังหวะกดด้วยซ้ายอย่างใจเย็น ลิเวอร์พูล แซงนำ 3-2

นาทีที่ 85 เจ้าบ้านต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ เอเตียนน์ กาปู ไปเสียบตัดเกมใส่ เคอร์ติส โจนส์ ล้มลงไป ผู้ตัดสินวิ่งมาแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแเดงต้องออกจากสนามทันที

จบเกม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลิกรัวแซงเอาชนะ บียาร์เรอัล 3-2 ทำให้รวมสองนัดผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 5-2 ถือเป็นครั้งที่ 10 ของสโมสรที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บียาร์เรอัล (4-4-2) : เคโรนีโม่ รูยี่ – ฮวน ฟอยธ์, ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, เปร์วีส เอสตูปินญาน – โจวานี่ โล เซลโซ่, เอเตียนน์ กาปู, ดาเนียล ปาเรโฆ่, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง – เคราร์ด โมเรโน่, บูลาย เดีย
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดีโอโก้ โชต้า
ผู้ตัดสิน : แดนนี่ มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)