สมศักดิ์ศรี! กรุงเทพมหานคร คว้าแชมป์ Thai Women’s League 1 ฤดูกาล 2566

สมศักดิ์ศรี! กรุงเทพมหานคร คว้าแชมป์ Thai Women’s League 1 ฤดูกาล 2566

วันที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 18:00 น. ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี ฝ่ายฟุตบอลหญิง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดพิธีมอบถ้วยแชมป์การแข่งขันฟุตบอลหญิงรายการ Thai Women’s League 1 ประจำฤดูกาล 2566 ให้กับสโมสร กรุงเทพมหานคร

ภายในพิธีมอบถ้วยนำโดย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วย พิมพิกา สื่ออยู่ยง รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมฯ, กิตติพันธ์ อาชาปราโมทย์ ที่ปรึกษาด้านการตลาดสมาคมฯ และ รัมภา วราวีรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลหญิง สมาคมฯ

สำหรับแชมป์ในปีนี้ ตกเป็นของ กรุงเทพมหานคร ที่เก็บไปได้ทั้งหมด 51 คะแนน จากการลงสนาม 18 นัด ขณะที่รองแชมป์ตกเป็นของ สโมสรฟุตบอลหญิงจังหวัดชลบุรี ที่มี 46 คะแนน

การเป็นแชมป์ในครั้งนี้ทำให้ กรุงเทพมหานคร ได้สิทธิ์เข้าไปเล่นฟุตบอลรายการ AFC Club Championship ฤดูกาล 2023

ฝนถล่มหนัก! ฝ่ายจัดไม่เสี่ยงยกเลิกเกม เลสเตอร์ พบ สเปอร์ส หลังสนามไม่พร้อม

ฝนถล่มหนัก! ฝ่ายจัดไม่เสี่ยงยกเลิกเกม เลสเตอร์ พบ สเปอร์ส หลังสนามไม่พร้อม

การแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ ระหว่าง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ จะพบกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน, ประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2566

โดยก่อนเกมการแข่งขันได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังบริเวณพื้นสนาม ซึ่งภายใต้คำแนะนำของคณะผู้จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการของทุกฝ่ายที่คำนึงถึงความปลอดภัยของบรรดานักเตะอย่างสูงสุด

จึงทำให้ทั้งสองทีมเห็นพ้องในการตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันในค่ำคืนนี้ ทางคณะผู้จัดงานต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสุดซึ้ง และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ เป็นอย่างสูง สำหรับการคืนเงิน ทางผู้จัดจะทำการแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุด

ก้าวแรกแห่งชัยชนะของ “โปเช็ตติโน” ในฐานะกุนซือคนใหม่ เชลซี

ก้าวแรกแห่งชัยชนะของ “โปเช็ตติโน” ในฐานะกุนซือคนใหม่ เชลซี

เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่อีกครั้ง หลังจากได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เข้ามาคุมทีม และนับเป็นกุนซือรายที่ 4 ในรอบ 1 ปีของพวกเขา ซึ่งหลังจากความวุ่นวานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ตลอดห้วงที่ผ่านมา “สิงโตน้ำเงินคราม” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินหน้าต่อไป

โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส เคยแถลงข่าวอย่างกล้าหาญในวันแรกที่มาคุม เชลซี เมื่อปี 2004 ด้วยการบอกว่า ตัวเองคือ “เดอะ สเปเชียล วัน” ขณะที่ เยอร์เกน คล็อปป์ ประกาศในวันแรกที่คุม ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 ว่า จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกภายใน 4 ปี และก็ทำสำเร็จในปีที่ 5

โปเช็ตติโน ก็ทำในแบบเดียวกับ มูรินโญ และ คล็อปป์ ในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในฐานะกุนซือ เชลซี โดยระบุว่า ปัญหาต่างๆในสโมสรต้องได้รับการจัดการให้ถูกต้อง และทำให้เห็นว่า งานใหม่ของเขาทำด้วยแรงจูงใจ

สิ่งที่ โปเช็ตติโน พูดออกมาเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการคุมสโมสรระดับท็อป ซึ่งอดีตโค้ช เชลซี ทั้ง 3 รายก่อนหน้านี้อย่าง โธมัส ทูเคิล, เกรแฮม พ็อตเตอร์ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ไม่เคยแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ออกมาเลย

ทูเคิล เคยพา เชลซี คว้าถ้วยยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2021 แต่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับ ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของสโมสร ขณะที่ พ็อตเตอร์ ไม่มีประสบการณ์ และขาดความมั่นใจที่จะผ่านวิกฤต ส่วน แลมพาร์ด ก็เป็นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่างในการเข้ามาทำงานกับ เชลซี โดยก่อนหน้านี้ โค้ชวัย 51 ปี เคยคุมทีมดังอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และต้องเจอกับปัญหามากมาย อาทิ ข้อเรียกร้องจากเจ้าของทีมชาวกาตาร์ และการบริหารนักเตะซูเปอร์สตาร์ อย่าง ลิโอเนล เมสซี, คีเลียน เอ็มบัปเป และ เนย์มาร์

การปรากฏตัวต่อหน้ากล้องครั้งแรกของ โปเช็ตติโน บ่งบอกว่า ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ เปแอสเช มาแล้ว ซึ่งเขาแสดงถึงความต้องการอย่างชัดเจนก่อนเข้ามารับงานที่ เชลซี ว่า เจ้าของสโมสรต้องไม่มาวุ่นวายกับการทำงานในห้องแต่งตัว

พ็อตเตอร์ และ แลมพาร์ด ไม่เคยแสดงความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบผลงานของทีม โดยเคยมีเหตุการณ์ที่ โบห์ลี ขอเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อพูดคุยกับนักเตะ และเป็นคนให้สัมภาษณ์ออกสื่อถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของทีมด้วยตัวเอง

อดีตเทรนเนอร์ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ต้องการคุมทีมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยกตัวอย่างในกรณีอนาคตของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยียมที่หมดสัญญายืมตัวจาก อินเตอร์ มิลาน นั้น โบห์ลี มองว่า ควรจะเก็บไว้เพราะเป็นนักเตะค่าตัวแพง แต่ โปเช็ตติโน ยืนยันว่า เขาจะตัดสินอนาคตผู้เล่นเอง

ขณะเดียวกัน มีผู้เล่นหลายรายของ เชลซี ที่กำลังรอดูว่า อนาคตของพวกเขาจะได้อยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หรือสโมสรอื่นๆ ซึ่งความไม่แน่นอนในช่วงซัมเมอร์นี้ โปเช็ตติโน ต้องเป็นคนจัดการทั้งหมดว่า ใครจะอยู่ในแผนการทำทีมสำหรับฤดูกาลหน้าบ้าง

นอกจากนี้ โปเช็ตติโน มีงานหนักรออยู่ในต้องเรียกฟอร์มนักเตะอย่าง มิไคโล มูดรีก ปีกชาวยูเครน กลับมาให้ได้ และต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับนักเตะใหม่อย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ นิโคลัส แจ็คสัน

ในแผงกองกลาง โปเช็ตติโน ก็ต้องหาคนเข้ามาช่วยงาน เอ็นโซ เฟร์นันเดซ หลังจากบรรดามิดฟิลด์อย่าง เอ็นโกโล ก็องเต, มาเตโอ โควาชิช, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เมสัน เมาต์ โดนปล่อยออกจากทีมไปทั้งหมดแล้ว

ขณะที่อนาคตของ ลีวาย โคลวิลล์ กองหลังทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ก็ยังไม่ชัดเจน หลังจากผู้เล่นต้องการโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ และ ลิเวอร์พูล ก็ให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่ง โปเช็ตติโน ต้องเคลียร์ให้ชัดเจนว่า ผู้เล่นยังมีอนาคตต่อไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีงานที่ต้องทำอีกมาก แต่ขั้นตอนแรกของการสร้าง เชลซี โฉมใหม่ของ โปเช็ตติโน นั้น เขาได้รับชัยชนะไปแล้วจากการแถลงข่าวเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ที่มาพร้อมความกดดันมหาศาล

เล่นของหนัก! บุรีรัมย์ คว้าตัว “เชย์ดาเยฟ” ดาวยิงทีมชาติอาเซอร์ไบจานร่วมทัพ

เล่นของหนัก! บุรีรัมย์ คว้าตัว “เชย์ดาเยฟ” ดาวยิงทีมชาติอาเซอร์ไบจานร่วมทัพ

“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกไทยลีก บรรลุข้อตกลงคว้าตัว รามิล เชย์ดาเยฟ กองหน้า ที่สามารถเล่นเกมรุกได้ทุกตำแหน่งจาก สโมสรคาราบัค ทีมจากพรีเมียร์ลีกอาเซอร์ไบจาน มาร่วมทัพ

โดยดาวเตะอายุ 27 ปี ถือ 2 สัญชาติ อาเซอร์ไบจาน – รัสเซีย เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพด้วยการเซ็นสัญญา 4 ปี กับ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังของปรเทศรัสเซีย ในปี 2013 ด้วยวัย 17 ปี ตลอดสัญญา ลงสนามช่วยทีม เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทุกชุดทุกรายการไป 76 นัด ยิงไป 35 ประตู

แต่ลีกที่สร้างชื่อให้กับดาวยิงเจ้าของความสูง 187 เซนติเมตร คือ ลีกอาเซอร์ไบจาน เจ้าตัวเริ่มมาวาดลวดลายครั้งแรกในฤดูกาล 2017/18 ด้วยการยืมตัวมาเล่นให้ คาราบัค ลงสนามไป 19 นัด ยิง 1 ประตู ก่อนจะออกไปหาความท้าทายในยุโรปอีกครั้ง จากนั้นในฤดูกาล 2020/21 เชย์ดาเยฟ ก็หวนกลับมาค้าแข้งในอาเซอร์ไบจาน ด้วยการมาร่วมทัพ ซาบาห์ เอฟเค ลงสนามช่วยทีมไป 26 นัด ยิงไป 6 ประตู

จากนั้น คาราบัค ก็จัดการคว้าตัวมาร่วมทีมในฤดูกาล 2021/22 ถึง ฤดูกาล 2022/23 มีโอกาสลงสนาม ช่วยทีมไป 97 นัด ยิงไป 36 ประตู โดยฤดูกาลล่าสุดถือเป็นแกนหลักของทีมยิงไป 22 ประตู จาก 34 เกม พาทีมคว้าแชมป์ลีกอาเซอร์ไบจาน พร้อมคว้าดาวซัลโวมาครอง ก่อนจะเป็น ปราสาทสายฟ้า คว้าตัวมาร่วมทัพ เพื่อเสริมความดุดันในเกมรุกในการสู้ศึกฤดูกาล 2023/24 โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 10 ลงสนาม

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังมีถ้วยรางวัลติดตัวมาด้วยอีกคือ ปี 2013 คว้าแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี กับ ทีมชาติรัสเซีย, ปี 2015 คว้าแชมป์ลีกรัสเซีย กับเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ปี 2016/17 คว้าแชมป์ ลีกสโลวาเกีย กับเอ็มเอสเค ซิลินา และคว้าแชมป์ลีกอาเซอร์ไบจาน 3 ครั้งกับคาราบัค (ปี 2017/18, ปี 2021/22, 2022/23)

เปลี่ยนเป้าหมาย! แมนฯ ยูไนเต็ด สนคว้า “กองหน้าปอร์โต้” ล่าตาข่ายฤดูกาลหน้า

เปลี่ยนเป้าหมาย! แมนฯ ยูไนเต็ด สนคว้า “กองหน้าปอร์โต้” ล่าตาข่ายฤดูกาลหน้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังให้ความสนใจที่จะยื่นข้อเสนอคว้าตัว เมห์ดี้ ตาเรมี่ กองหน้าทีมชาติอิหร่าน ของ เอฟซี ปอร์โต้ สโมสรดังในลีกโปรตุเกส ไปล่าตาข่ายในช่วงปิดซีซั่นนี้

เอริก เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการเสริมทัพในตำแหน่งหัวหอกตัวเป้าเป็นลำดับแรก โดยรายงานอ้างว่า ทีมแมวมอง “ปีศาจแดง” จับตาดูฟอร์มการเล่นของ ดาวยิงวัย 30 ปี มาสักพักแล้ว

ในซีซั่นที่ผ่านมา ตาเรมี่ ระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ ปอร์โต้ ด้วยการซัดไปถึง 31 ประตู และทำไปอีก 14 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 51 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งทำให้ เทน ฮาก รู้สึกประทับใจผลงานอย่างมาก

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด พึ่งพา มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกทีมชาติอังกฤษ มากจนเกินไป และ เทน ฮาก ก็ต้องการคนเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ โดยมองว่า ตาเรมี่ จะสามารถเข้ามาเป็นกำลังเสริมชั้นดีได้

อย่างไรก็ตาม นอกจาก ตาเรมี่ แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสนใจกองหน้าหลายราย อาทิ แฮร์รี่ เคน ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ วิคตอร์ โอซิมเฮน ของ นาโปลี เช่นกัน