เล่นของหนัก! บุรีรัมย์ คว้าตัว “เชย์ดาเยฟ” ดาวยิงทีมชาติอาเซอร์ไบจานร่วมทัพ

เล่นของหนัก! บุรีรัมย์ คว้าตัว “เชย์ดาเยฟ” ดาวยิงทีมชาติอาเซอร์ไบจานร่วมทัพ

“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกไทยลีก บรรลุข้อตกลงคว้าตัว รามิล เชย์ดาเยฟ กองหน้า ที่สามารถเล่นเกมรุกได้ทุกตำแหน่งจาก สโมสรคาราบัค ทีมจากพรีเมียร์ลีกอาเซอร์ไบจาน มาร่วมทัพ

โดยดาวเตะอายุ 27 ปี ถือ 2 สัญชาติ อาเซอร์ไบจาน – รัสเซีย เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพด้วยการเซ็นสัญญา 4 ปี กับ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังของปรเทศรัสเซีย ในปี 2013 ด้วยวัย 17 ปี ตลอดสัญญา ลงสนามช่วยทีม เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทุกชุดทุกรายการไป 76 นัด ยิงไป 35 ประตู

แต่ลีกที่สร้างชื่อให้กับดาวยิงเจ้าของความสูง 187 เซนติเมตร คือ ลีกอาเซอร์ไบจาน เจ้าตัวเริ่มมาวาดลวดลายครั้งแรกในฤดูกาล 2017/18 ด้วยการยืมตัวมาเล่นให้ คาราบัค ลงสนามไป 19 นัด ยิง 1 ประตู ก่อนจะออกไปหาความท้าทายในยุโรปอีกครั้ง จากนั้นในฤดูกาล 2020/21 เชย์ดาเยฟ ก็หวนกลับมาค้าแข้งในอาเซอร์ไบจาน ด้วยการมาร่วมทัพ ซาบาห์ เอฟเค ลงสนามช่วยทีมไป 26 นัด ยิงไป 6 ประตู

จากนั้น คาราบัค ก็จัดการคว้าตัวมาร่วมทีมในฤดูกาล 2021/22 ถึง ฤดูกาล 2022/23 มีโอกาสลงสนาม ช่วยทีมไป 97 นัด ยิงไป 36 ประตู โดยฤดูกาลล่าสุดถือเป็นแกนหลักของทีมยิงไป 22 ประตู จาก 34 เกม พาทีมคว้าแชมป์ลีกอาเซอร์ไบจาน พร้อมคว้าดาวซัลโวมาครอง ก่อนจะเป็น ปราสาทสายฟ้า คว้าตัวมาร่วมทัพ เพื่อเสริมความดุดันในเกมรุกในการสู้ศึกฤดูกาล 2023/24 โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 10 ลงสนาม

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังมีถ้วยรางวัลติดตัวมาด้วยอีกคือ ปี 2013 คว้าแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี กับ ทีมชาติรัสเซีย, ปี 2015 คว้าแชมป์ลีกรัสเซีย กับเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ปี 2016/17 คว้าแชมป์ ลีกสโลวาเกีย กับเอ็มเอสเค ซิลินา และคว้าแชมป์ลีกอาเซอร์ไบจาน 3 ครั้งกับคาราบัค (ปี 2017/18, ปี 2021/22, 2022/23)

แกร่งจริง! บุรีรัมย์ บุกถล่ม แบงค็อก ถึงถิ่น 3-0 ฉลุยรอบรองฯ ถ้วยลีกคัพ

แกร่งจริง! บุรีรัมย์ บุกถล่ม แบงค็อก ถึงถิ่น 3-0 ฉลุยรอบรองฯ ถ้วยลีกคัพ

การแข่งขัน ฟุตบอล รีโว่ คัพ 2022/23 รอบ 8 ทีมสุดท้าย “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สนาม ทรู สเตเดียม เมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

เริ่มเกมมา 13 นาที ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้บอลหน้าเขตโทษแทงบอลต่อให้ ฮาริส วูชคิช ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตามมาบล็อกบอลในจังหวะสุดท้ายได้ทัน

นาทีที่ 15 ธีราทร บุญมาทัน เปิดเตะมุมทางขวาเข้าไปที่เสาแรก ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา สลัดตัวประกบได้โหม่งบอลจะเสียบเสา ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด นายด่านเจ้าถิ่นยืนอยู่ใกล้ ๆ ปัดบอลพ้นอันตรายไปได้แบบฉิวเฉียด

นาทีที่ 30 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกทางซ้าย ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้ทะยานขึ้นโหม่งบอลกดลงพื้น บอลเด้งลอดขา ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด นายด่านเจ้าถิ่นเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกนำ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0

นาทีที่ 41 แข้งเทพ มาตั้งเกมบุกได้บ้าง วานเดอร์ หลุยส์ ได้ลากเลื้อยบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะตัดเข้าในแล้วยิงจากระยะไกลบอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไป หมดครึ่งแรก บุรีรัมย์ บุกนำ 1-0

กลับมาสู้กันต่อครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 50 โจนาธาน โบลินกิ ได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากบอลเลี้ยงจี้เข้าด้านในแล้วตัดสินใจเปิดบอลเข้าไปกลางเขตโทษ ฮาริส วูชคิช ยืนอยู่คนเดียวโหม่งบอลเหน่ง ๆ เข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกหนีเป็น 2-0

นาทีที่ 70 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นบ้าง วานเดอร์ หลุยส์ เปิดบอลจากด้านซ้ายยาวไปที่เสาสอง มาห์มูด ดาฮัดฮา ได้เทกตัวขึ้นโหม่งบอลตรงกรอบ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ล้มตัวรับบอลไว้ได้สบาย

นาทีที่ 77 โจนาธาน โบลินกิ จ่ายบอลจากซ้ายเข้ากลางให้ ธีราทร บุญมาทัน แทงบอลเข้าเขตโทษต่อให้ โกรัน เคาซิช แตะบอลหลอกผู้เล่นเจ้าถิ่น ก่อนจะหมุนตัวมาเล่นบอลแล้วตัดสินใจยิงตูมเดียวบอลหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็น 3-0

จากนั้น ปราสาทสายฟ้า เบาเกมบุกลงหันมาเล่นรับ และรอโอกาสเล่นโต้กลับ แต่สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 3-0 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (ผู้รักษาประตู), วันชัย จารุนงคราญ (พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา น.58), เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส (C), มานูเอล ทอม เบียรห์, นิติพงษ์ เสลานนท์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (รัชนาท อรัญญไพโรจน์ น.81), ปกเกล้า อนันต์ (ชญาวัต ศรีนาวงษ์ น.58 (ชยธร เทพสุวรรณวร น.85)), มาห์มูด ดาฮัดฮา (รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก น.81), เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดซ, วานเดอร์ หลุยส์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน, เรบิน สุลากา, ดิออน คูลส์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (พรรษา เหมวิบูลย์ น.84) (C), โกรัน เคาซิช, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (รัตนากร ใหม่คามิ น.81), โจนาธาน โบลินกิ, ฮาริส วูชคิช, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (อิรฟาน ดอเลาะ น.89), ศุภชัย ใจเด็ด (อาทิตย์ บุตรจินดา น.89)