จบยัง? “โฟฟานา” ร่ายยาวเรื่องความขัดแย้งกับ “เอ็นโซ” กรณีร้องเพลงเหยียดเชื้อชาติ

เวสลีย์ โฟฟานา กองหลังชาวฝรั่งเศสของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ได้ทำความเข้าใจกับ เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว หลังฝ่ายหลังมีประเด็นคลิปร้องเพลงเหยียดเชื้อชาติ

โฟฟานา กล่าวผ่าน The Athletic สื่อกีฬาชั้นนำว่า “เราคุยกันแล้ว ผมก็อธิบายไปว่า ทำไมผมถึงไม่ชอบวิดีโอนี้ และเขา (เฟอร์นันเดซ) ก็อธิบาย เขาขอโทษ เขาไม่ต้องการทำร้ายแฟนบอลชาวฝรั่งเศสหรือใครก็ตาม เขาไม่เข้าใจเนื้อหาตอนที่ร้องเพลงนี้”

“ผมเชื่อใจเขา เพราะผมรู้จักเขาดี ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเหยียดเชื้อชาติ แต่การกระทำแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงแล้ว แน่นอน ผมลบทวิตเตอร์วิดีโอนั้นทิ้งไป ตอนนี้เราเคลียร์ทุกอย่าง เราเล่นให้กับสโมสรเดียวกัน มีตราสัญลักษณ์เดียวกัน และฝึกซ้อมด้วยกัน”

“ตอนนี้ผมเข้าใจเขาแล้ว เขาก็เข้าใจผมเช่นกัน ทุกคนมีความสุข เอ็นโซ เป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในอาร์เจนตินา ผมหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนกับเขา แน่นอนว่ามันเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่าง ผมรู้จัก เอ็นโซ (จากการอยู่ เชลซี ด้วยกันตั้งแต่มกราคม 2023) ซึ่งเขาไม่เคยแบ่งแยกเชื้อชาติเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

“แต่ในวิดีโอมันแย่จริงๆ ไม่ใช่แค่ เอ็นโซ เท่านั้น มันคือทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ตอนนี้มันจบแล้ว ผมพอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เขาบอกว่า ขอโทษ ผมเชื่อใจเขา และก้าวต่อไปด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

เท่าไรว่ามา! สื่อดังเผยสิงห์บลูส์สะกิดสาลิกาดงขอทราบค่าตัว “อิซัก”

สื่อดังของอังกฤษ อย่าง เดลี เมล์ รายงานว่า เชลซี ได้ทำการติดต่อไปหา นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพื่อสอบถามราคาของศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัก โดยมีเป้าหมายที่จะควักกระเป๋ามากกว่า 100 ล้านปอนด์ กระชากดาวเตะทีมชาติสวีเดนรายนี้เข้ามาล่าตาข่ายให้กับทีม

ในซีซันที่แล้ว อิซัก ทำประตูให้ทัพสาลิกาดงไปทั้งหมด 25 ประตู ตอบแทนที่ต้นสังกัดจ่ายเงินไปกว่า 63 ล้านปอนด์เพื่อดึงเขามาจาก เรอัล โซเซียดัด เมื่อปี 2022 ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนี้ค่าตัวของเขาน่าจะพุ่งทะยานไปแตะหลัก 100 ล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อย แม้ฤดูกาลแรกจะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจนทำได้เพียง 10 ประตูก็ตาม

ถึงแม้ เอ็ดดี ฮาว กุนซือทีม นิวคาสเซิล จะแสดงความจำนงว่าต้องการเก็บผู้เล่นคนสำคัญอย่าง อิซัก และ บรูโน กิมาไรส์ ไว้ใช้งานต่อไปในซีซันหน้า แต่บอร์ดบริหารของทีมก็ออกมายอมรับว่า พวกเขาพร้อมปล่อยนักเตะทุกคนหากได้ราคาที่สมน้ำสมเนื้อ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎการเงินสุดหินของพรีเมียร์ลีก โดยที่มีรายงานออกมาว่าสัญญาของ อิซัก กับ นิวคาสเซิล ยังไม่มีการขยายเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ในซัมเมอร์นี้ เชลซี มีข่าวกับกองหน้าหลายคน เช่น เบนจามิน เซสโก, วิคเตอร์ เกียวเคเรส, วิคเตอร์ โอซิเมน, โจนาธาน เดวิด, จอห์น ดูรัน, แม็กซิมิเลียน ไบเออร์, โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน, ซามู โอโมโรดิออน ก็ล้วนแล้วแต่สลับกันขึ้นมาเป็นข่าวหน้าหนึ่งในแต่ละสัปดาห์ รวมถึงดีลของ 2 ดาวรุ่งอย่าง โอมารี เคลลีแมน และ มาร์ค กีอู ก็มีรายงานว่าใกล้จะปิดดีลเรียบร้อยแล้ว

แก่แต่โคตรเก๋า! “กักโป” เผยชื่อ “กองหลังพรีเมียร์ลีกแกร่งสุด” ที่เคยเผชิญหน้าด้วย

โคดี กักโป หัวหอกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ติอาโก ซิลวา อดีตกองหลังจอมเก๋าชาวบราซิลของ เชลซี เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งที่สุดที่ตนเองเคยเผชิญหน้าด้วย

ดาวยิงวัย 25 ปี กล่าวว่า “ติอาโก ซิลวา ผมเจอกับเขาในการลงเล่นเกมแรกให้ ลิเวอร์พูล ด้วย เขาฉลาดมาก ตอนนี้เขาอายุมากขึ้นนิดหน่อย แต่ใช่แล้ว เขาเป็นกองหลังที่มีคลาสมาก เขาเป็นนักฟุตบอลที่เล่นด้วยสมองอย่างแท้จริง”

“เขาคิดล่วงหน้าไป 2-3 จังหวะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมจะเอาชนะการดวลกับเขาได้หรือเปล่า? เขาอยู่ตรงที่ที่ผมอยู่เสมอ ส่วนตัวผมรู้สึกชื่นชมกองหลังที่เล่นแบบนี้มากๆ”

ซิลวา ย้ายจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาเล่นกับ เชลซี เมื่อปี 2020 และกลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของทีมทันที โดยปราการหลังเลือดแซมบ้าลงเล่นให้ทัพสิงห์บลูส์รวมทุกรายการ 155 เกม พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2021

ปัจจุบัน ในวัย 39 ปี ซิลวา อำลา เชลซี ย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ ฟลูมิเนนเซ แบบไม่มีค่าตัว

เอาแน่! สื่อดังอ้าง เชลซี เปิดฉากคุย นาโปลี คว้า “โอซิเมน” ล่าตาข่าย

จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ นักข่าวฟุตบอลคนดังของ สกาย อิตาเลีย สื่อชั้นนำแห่งประเทศอิตาลี ออกมารายงานว่า เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มทำการหารือกับ นาโปลี เพื่อสอบถามถึงความเป็นได้ในการคว้าตัว วิคเตอร์ โอซิเมน หัวหอกทีมชาติไนจีเรีย มาร่วมทีมในซีซันหน้า

ดิ มาร์ซิโอ กล่าวว่า “ความเป็นไปได้ในการย้ายกลับไปเล่นในฝรั่งเศสอีกครั้งไม่ได้ทำให้ โอซิเมน รู้สึกสนใจ เขาเคยเล่นที่นั่นกับ ลีลล์ มาแล้ว แต่ชัดเจนว่าการเล่นกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นั้น แตกต่างออกไป เพราะคุณสามารถเล่นเกมอย่างรอบรองชนะเลิศยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้”

“แต่เขาชอบอังกฤษ ซึ่ง อาร์เซนอล และ เชลซี เป็น 2 ทีมที่สามารถคว้าตัว โอซิเมน ไปร่วมทีมได้ และตราบใดที่ความเป็นไปได้นั้นเปิดอยู่ เขาจะรอ ผมทราบว่า จิโอวานนี มานนา ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของ นาโปลี กำลังพูดคุยกับ เชลซี เพื่อประเมินว่ายังมีช่องว่างให้สรุปข้อตกลงหรือไม่?”

“ซึ่งบางทีอาจรวม โรเมลู ลูกากู ไว้ในข้อตกลงของ โอซิเมน ก็เป็นไปได้” ดิ มาร์ซิโอ กล่าวทิ้งท้าย

กองหน้าวัย 25 ปี เพิ่งจะขยายสัญญากับ นาโปลี ไปถึงปี 2026 และถูกตั้งค่าตัวไว้ราว 120 ล้านปอนด์

ศึกนอกสนาม! “โรมาโน” ยันชัด อาร์เซนอล, สเปอร์ส สนคว้า “ตัวจี๊ดหมาป่า”

ฟาบริซิโอ โรมาโน นักข่าวฟุตบอลคนดังชาวอิตาเลียนออกมาเปิดเผยว่า อาร์เซนอล และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สองสโมสรคู่ปรับแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการยื่นข้อเสนอคว้าตัว เปโดร เนโต ปีกทีมชาติโปรตุเกสของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทีม

โรมาโน ระบุว่า “อาร์เซนอล มีปีกบางคนที่อยู่ในความสนใจพวกเขาในช่วงซัมเมอร์ แต่มันเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นรายชื่อนักเตะมากมายที่พัวพันกับสโมสรต่างๆ ใครคือนักเตะที่เป็นตัวเลือกหลักจริงๆในลิสต์ของ อาร์เซนอล?”

“คำตอบคือ เปโดร เนโต เป็นผู้เล่นที่ อาร์เซนอล ชื่นชอบ และให้ความสนใจมาตลอด แต่เราต้องรอให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ตัดสินใจราคาเบื้องต้น และต้องรอดูว่า อาร์เซนอล, ท็อตแนม และสโมสรอื่นๆ จะตัดสินใจทำอะไรต่อไป”

ตัวรุกจอมเทคนิควัย 23 ปี ย้ายจาก บรากา ในบ้านเกิดมาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อปี 2019 และกลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีมมาตลอด โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการ 134 เกม ซัดไป 14 ประตู พร้อมกับมีดีกรีติดทีมชาติโปรตุเกสไปแล้ว 5 นัด

สำหรับ เนโต ยังมีสัญญากับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ถึงปี 2027 และมีค่าตัวราว 60 ล้านปอนด์

หงส์งานเข้า! สื่อบ้านเกิดปูดข่าว “ซาลาห์” อาจพลาดลงนัดชิงฯคาราบาว คัพ

มีรายงานว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ส่อพลาดลงสนามช่วยทีมในเกมพรีเมียร์ลีกที่จะพบกับ ลูตัน ทาวน์ คืนวันพุธนี้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ และอาจรวมถึงเกมคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่จะพบกับ เชลซี อีกด้วย

ดาวเตะวัย 31 ปี ลงเป็นตัวจริงครั้งสุดท้ายให้หงส์แดงในเกมวันปีใหม่ที่ช่วยให้ทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-2 ก่อนที่จะเดินทางไปไอวอรีโคสต์ เพื่อเป็นตัวแทนของทีมชาติอียิปต์ในการแข่งขันแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์

ซาลาห์ ได้รับบาดเจ็บและเดินทางกลับสโมสรเพื่อเข้ารับการรักษา เขาใช้เวลาพักฟื้นไม่นานก่อนกลับมาลงสนามในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เยอร์เกน คล็อปป์ อาจไม่สามารถใช้งาน ซาลาห์ ในเกมนัดชิงคาราบาว คัพ เมื่อล่าสุด อาห์เหม็ด ชูบีร์ นักข่าวของสถานีโทรทัศน์อียิปต์ OnTimeSports อ้างว่าแข้งรายนี้เจ็บซ้ำจากแมตช์ล่าสุด

“ผมมีข่าวเศร้า ผมรู้ว่า ซาลาห์ ได้รับบาดเจ็บในช่วงท้ายของเกมที่ ลิเวอร์พูล พบกับ เบรนท์ฟอร์ด และอาการบาดเจ็บซ้ำจากที่ประสบระหว่างเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติอียิปต์” ชูบีร์ กล่าว

“โชคร้ายที่ ซาลาห์ จะไม่สามารถลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกของ ลิเวอร์พูล นัดต่อไปพบกับ ลูตัน ทาวน์ นี่คือข้อมูลของผม และผมหวังว่าข่าวนี้จะไม่เป็นความจริง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องจริง”

กุญแจสำคัญ! “กราเวนแบร์ช” เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกย้ายซบ ลิเวอร์พูล

กุญแจสำคัญ! “กราเวนแบร์ช” เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกย้ายซบ ลิเวอร์พูล

ไรอัน กราเวนแบร์ช มิดฟิลด์อนาคตไกลชาวฮอลแลนด์ ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับ “หงส์แดง”

ดาวเตะวัย 21 ปี ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูล ตลอดห้วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนจะบรรลุข้อตกลงในการย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีกา เยอรมัน มาเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 34.2 ล้านปอนด์ในวันเดดไลน์ของตลาดนักเตะ

ขณะเดียวกัน กราเวนแบร์ช ระบุว่า คล็อปป์ มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ย้ายมาสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล โดยกล่าวว่า “คล็อปป์ คือ กุญแจสำคัญสำหรับผมในการย้ายมายัง ลิเวอร์พูล ผมเคยคุยกับเขามาก่อนแล้ว เขาก็ทำให้ผมรู้สึกดี เขาพูดกับผมว่า ฉันต้องการนาย”

“เขาบอกแผนการของเขากับผม และอธิบายทุกอย่าง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีในการตัดสินใจ” อดีตกองกลางบาเยิร์น กล่าว

สำหรับ กราเวนแบร์ช กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ ลิเวอร์พูล โดยลงสนามไปรวมทุกรายการ 7 เกม ยิงได้ 1 ประตู และทำไปอีก 2 แอสซิสต์

จบสกอร์ไม่คม! เชลซี แค่บุกเจ๊า บอร์นมัธ 0-0 เก็บหนึ่งแต้มหล่นที่ 14 ตาราง

จบสกอร์ไม่คม! เชลซี แค่บุกเจ๊า บอร์นมัธ 0-0 เก็บหนึ่งแต้มหล่นที่ 14 ตาราง

การแข่งขัน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง บอร์นมัธ เปิดบ้านพบกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่สนาม ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2566

เปิดเกมมา 14 นาที ทีมเยือนเกือบได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ นิโคลัส แจ็คสัน ได้ยิงบอลพุ่งผ่านมือ เนโต้ ไปแล้วแต่โดนเสาอย่างน่าเสียดาย

“สิงห์บลูส์” ครองเกมบุกกดดันต่อเนื่องและเกือบได้ในนาทีที่ 35 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายแต่ เนโต้ พุ่งเซฟไว้ได้ หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

กลับมาเล่นครึ่งหลังนาทีที่ 51 ทีมเยือนพลาดโอกาสนำอีกครั้งจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงชนคานบอลกระดอนมาเข้าทาง ลีวาย โคลวิลล์ ซ้ำตุงตาข่ายแต่เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี บุกเสมอ บอร์นมัธ 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม และทำให้ “สิงห์บลูส์” ไม่ชนะใครเป็นเกมที่สองติดต่อกัน หล่นไปอยู่อันดับ 14 ด้วยการมี 5 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บอร์นมัธ (4-2-3-1)
: เนโต้ – แม็กซ์ แอรอนส์, อิลีย่า ซาบาร์นี่, มาร์กอส เซเนซี่, มิลอส เคอร์เคซ – ไรอัน คริสตี้, ลูอิส คุ้ก – เดวิด บรู๊คส์, ฟิลิป บิลลิ่ง, มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ – โดมินิก โซลันกี้
เชลซี (3-4-2-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – อักแซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, ลีวาย โคลวิลล์ – มาโล กุสโต้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เลสลีย์ อูโกชุควู, มิไคโล มูดริค – คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง – นิโกลัส แจ็คสัน

สโมสรใหญ่กว่านักเตะ! “เด แซร์บี้” ยันลืม “ไคเซโด้” ไปหมดแล้วตอนนี้

สโมสรใหญ่กว่านักเตะ! “เด แซร์บี้” ยันลืม “ไคเซโด้” ไปหมดแล้วตอนนี้

โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ นายใหญ่ ไบรท์ตัน ทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเผยว่าตนลืม มอยเซส ไคเซโด้ มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีมไปแล้วตอนนี้ หลังนักเตะจ่อย้ายทีมเต็มแก่

ลิเวอร์พูล และ เชลซี กำลังต่อสู้แย่งลายเซ็น ไคเซโด้ อย่างดุเดือด โดยฝั่ง ”หงส์แดง” สามารถบรรลุข้อตกลงกับ ไบร์ทตัน ในดีลนี้ได้แล้วด้วยมูลค่ารวม 110 ล้านปอนด์ ซึ่งจะเป็นการปาดหน้า เชลซี ที่พยายามตามจีบนักเตะมาตลอดหลายเดือน แต่ไม่สามารถตกลงค่าตัวกับต้นสังกัดของนักเตะได้

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ฝั่ง ”สิงห์บลูส์” เริ่มจะมีความหวัง เมื่อล่าสุด ฟาบริซิโอ โรมาโน่ รายงานว่า กองกลาง เอกวาดอร์ วัย 21 ปี ”ต้องการย้ายไป เชลซี เท่านั้น”

“ผมลืม มอยเซส ไปแล้ว” เด แซร์บี้ กล่าวในแถลงข่าวก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2023/24

”ผมภูมิใจในผู้เล่นที่เรามีอยู่ในทีม เราต้องพัฒนาต่อไป ให้เครดิตไปที่สโมสร สโมสรที่ใหญ่กว่าสามารถซื้อผู้เล่นของเราได้ แต่พวกเขาไม่สามารถซื้อจิตวิญญาณของเราได้”

ก้าวแรกแห่งชัยชนะของ “โปเช็ตติโน” ในฐานะกุนซือคนใหม่ เชลซี

ก้าวแรกแห่งชัยชนะของ “โปเช็ตติโน” ในฐานะกุนซือคนใหม่ เชลซี

เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่อีกครั้ง หลังจากได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เข้ามาคุมทีม และนับเป็นกุนซือรายที่ 4 ในรอบ 1 ปีของพวกเขา ซึ่งหลังจากความวุ่นวานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ตลอดห้วงที่ผ่านมา “สิงโตน้ำเงินคราม” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินหน้าต่อไป

โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส เคยแถลงข่าวอย่างกล้าหาญในวันแรกที่มาคุม เชลซี เมื่อปี 2004 ด้วยการบอกว่า ตัวเองคือ “เดอะ สเปเชียล วัน” ขณะที่ เยอร์เกน คล็อปป์ ประกาศในวันแรกที่คุม ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 ว่า จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกภายใน 4 ปี และก็ทำสำเร็จในปีที่ 5

โปเช็ตติโน ก็ทำในแบบเดียวกับ มูรินโญ และ คล็อปป์ ในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในฐานะกุนซือ เชลซี โดยระบุว่า ปัญหาต่างๆในสโมสรต้องได้รับการจัดการให้ถูกต้อง และทำให้เห็นว่า งานใหม่ของเขาทำด้วยแรงจูงใจ

สิ่งที่ โปเช็ตติโน พูดออกมาเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการคุมสโมสรระดับท็อป ซึ่งอดีตโค้ช เชลซี ทั้ง 3 รายก่อนหน้านี้อย่าง โธมัส ทูเคิล, เกรแฮม พ็อตเตอร์ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ไม่เคยแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ออกมาเลย

ทูเคิล เคยพา เชลซี คว้าถ้วยยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2021 แต่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับ ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของสโมสร ขณะที่ พ็อตเตอร์ ไม่มีประสบการณ์ และขาดความมั่นใจที่จะผ่านวิกฤต ส่วน แลมพาร์ด ก็เป็นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่างในการเข้ามาทำงานกับ เชลซี โดยก่อนหน้านี้ โค้ชวัย 51 ปี เคยคุมทีมดังอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และต้องเจอกับปัญหามากมาย อาทิ ข้อเรียกร้องจากเจ้าของทีมชาวกาตาร์ และการบริหารนักเตะซูเปอร์สตาร์ อย่าง ลิโอเนล เมสซี, คีเลียน เอ็มบัปเป และ เนย์มาร์

การปรากฏตัวต่อหน้ากล้องครั้งแรกของ โปเช็ตติโน บ่งบอกว่า ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ เปแอสเช มาแล้ว ซึ่งเขาแสดงถึงความต้องการอย่างชัดเจนก่อนเข้ามารับงานที่ เชลซี ว่า เจ้าของสโมสรต้องไม่มาวุ่นวายกับการทำงานในห้องแต่งตัว

พ็อตเตอร์ และ แลมพาร์ด ไม่เคยแสดงความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบผลงานของทีม โดยเคยมีเหตุการณ์ที่ โบห์ลี ขอเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อพูดคุยกับนักเตะ และเป็นคนให้สัมภาษณ์ออกสื่อถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของทีมด้วยตัวเอง

อดีตเทรนเนอร์ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ต้องการคุมทีมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยกตัวอย่างในกรณีอนาคตของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยียมที่หมดสัญญายืมตัวจาก อินเตอร์ มิลาน นั้น โบห์ลี มองว่า ควรจะเก็บไว้เพราะเป็นนักเตะค่าตัวแพง แต่ โปเช็ตติโน ยืนยันว่า เขาจะตัดสินอนาคตผู้เล่นเอง

ขณะเดียวกัน มีผู้เล่นหลายรายของ เชลซี ที่กำลังรอดูว่า อนาคตของพวกเขาจะได้อยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หรือสโมสรอื่นๆ ซึ่งความไม่แน่นอนในช่วงซัมเมอร์นี้ โปเช็ตติโน ต้องเป็นคนจัดการทั้งหมดว่า ใครจะอยู่ในแผนการทำทีมสำหรับฤดูกาลหน้าบ้าง

นอกจากนี้ โปเช็ตติโน มีงานหนักรออยู่ในต้องเรียกฟอร์มนักเตะอย่าง มิไคโล มูดรีก ปีกชาวยูเครน กลับมาให้ได้ และต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับนักเตะใหม่อย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ นิโคลัส แจ็คสัน

ในแผงกองกลาง โปเช็ตติโน ก็ต้องหาคนเข้ามาช่วยงาน เอ็นโซ เฟร์นันเดซ หลังจากบรรดามิดฟิลด์อย่าง เอ็นโกโล ก็องเต, มาเตโอ โควาชิช, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เมสัน เมาต์ โดนปล่อยออกจากทีมไปทั้งหมดแล้ว

ขณะที่อนาคตของ ลีวาย โคลวิลล์ กองหลังทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ก็ยังไม่ชัดเจน หลังจากผู้เล่นต้องการโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ และ ลิเวอร์พูล ก็ให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่ง โปเช็ตติโน ต้องเคลียร์ให้ชัดเจนว่า ผู้เล่นยังมีอนาคตต่อไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีงานที่ต้องทำอีกมาก แต่ขั้นตอนแรกของการสร้าง เชลซี โฉมใหม่ของ โปเช็ตติโน นั้น เขาได้รับชัยชนะไปแล้วจากการแถลงข่าวเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ที่มาพร้อมความกดดันมหาศาล