กุญแจสำคัญ! “กราเวนแบร์ช” เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกย้ายซบ ลิเวอร์พูล

กุญแจสำคัญ! “กราเวนแบร์ช” เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกย้ายซบ ลิเวอร์พูล

ไรอัน กราเวนแบร์ช มิดฟิลด์อนาคตไกลชาวฮอลแลนด์ ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับ “หงส์แดง”

ดาวเตะวัย 21 ปี ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูล ตลอดห้วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนจะบรรลุข้อตกลงในการย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีกา เยอรมัน มาเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 34.2 ล้านปอนด์ในวันเดดไลน์ของตลาดนักเตะ

ขณะเดียวกัน กราเวนแบร์ช ระบุว่า คล็อปป์ มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ย้ายมาสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล โดยกล่าวว่า “คล็อปป์ คือ กุญแจสำคัญสำหรับผมในการย้ายมายัง ลิเวอร์พูล ผมเคยคุยกับเขามาก่อนแล้ว เขาก็ทำให้ผมรู้สึกดี เขาพูดกับผมว่า ฉันต้องการนาย”

“เขาบอกแผนการของเขากับผม และอธิบายทุกอย่าง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีในการตัดสินใจ” อดีตกองกลางบาเยิร์น กล่าว

สำหรับ กราเวนแบร์ช กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ ลิเวอร์พูล โดยลงสนามไปรวมทุกรายการ 7 เกม ยิงได้ 1 ประตู และทำไปอีก 2 แอสซิสต์

ไม่เกี่ยวกับเงิน! สื่อดังเผยสาเหตุ “ลาเวีย” ปัด ลิเวอร์พูล เลือกซบ เชลซี

ไม่เกี่ยวกับเงิน! สื่อดังเผยสาเหตุ “ลาเวีย” ปัด ลิเวอร์พูล เลือกซบ เชลซี

ดิ แอตเลติก สื่อกีฬาชื่อดังตีข่าว โรเมโอ ลาเวีย บอกปัด ลิเวอร์พูล เพราะน้อยใจที่หงส์แดงเคยมองว่าตัวเองเป็นเพียงตัวเลือกเบอร์ 2 สำหรับการเสริมทัพในแผงกลาง ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าแข้งวัย 19 ปีตอบตกลงที่จะไปซบ เชลซี แล้ว

ลาเวีย กองกลางดาวรุ่งของ เซาธ์แฮมป์ตัน ปฏิเสธที่จะย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล เพราะรู้สึกไม่พอใจที่หงส์แดงปฏิบัติกับเขาเป็นเหมือนตัวเลือกสำรอง ตามรายงานของ ดิ แอตเลติก สื่อกีฬาชื่อดัง ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล พยายามที่จะหากองกลางตัวรับมาเสริมทัพให้ได้ หลังเสียทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ซึ่ง ลาเวีย กับ มอยเซส ไกเซโด้ คือ 2 คนที่ทีมของกุนซือ เยอร์เกน คล็อปป์ ตามล่าหนักที่สุด แต่สุดท้ายก็ไม่สมหวัง โดยรายของ ไคเซโด เปิดตัวกับ เชลซี แล้ว ส่วน ลาเวีย ก็มีข่าวลือว่าตอบตกลงที่จะย้ายไปเล่นให้สิงห์บลูส์เช่นกัน

ทั้งนี้ ดิ แอตเลติก เผยว่าปัจจัยที่ทำให้ ลาเวีย บอกปัด ลิเวอร์พูล เป็นเพราะเขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเพียงเบอร์ 2 ในสายตาของทีมดังแห่งถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ จากการที่ ลิเวอร์พูล พยายามที่จะปิดดีลกับ ไคเซโด ให้ได้มากกว่าเขาในตอนแรก และนั่นก็ทำให้เขาเลือกที่จะไปซบ เชลซี แทน

ตัวแทนออกโรงเคลียร์! ลือหนัก “คล็อปป์” เตรียมทิ้ง ลิเวอร์พูล โยกคุมเยอรมนี

ตัวแทนออกโรงเคลียร์! ลือหนัก “คล็อปป์” เตรียมทิ้ง ลิเวอร์พูล โยกคุมเยอรมนี

มาร์ค โกซิคกี้ เอเยนต์ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเฮดโค้ชวัย 56 ปี อาจโยกไปคุมทีมชาติเยอรมนี

“คล็อปป์” ไม่สามารถช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์แม้แต่รายการเดียวเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แถมยังพลาดท็อปโฟร์ ต้องไปเล่นยูโรปา ลีก ในซีซั่นหน้าอีกด้วย

อย่างไรก็ตามจากกรณีที่ ฮันซี่ ฟลิค ตกเป็นเป้าวิจารณ์จากการพา เยอรมนี ทำผลงานได้น่าผิดหวัง โดยเฉพาะการตกรอบแรก ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

แถมล่าสุด “อินทรีเหล็ก” เพิ่งแพ้คาบ้านให้กับ โคลอมเบีย 0-2 ในเกมกระชับมิตร ทำให้เริ่มมีกระแสให้ปลด ฟลิค จากกุนซือ และทำให้ชื่อของ คล็อปป์ ถูกมองเป็นแคนดิเดตที่จะมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของ เยอรมนี

ล่าสุด โกซิคกี้ ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว “เยอร์เก้น ยังมีสัญญาระยะยาวกับ ลิเวอร์พูล และ เดเอฟเบ ก็มีโค้ชอยู่แล้ว” โกซิคกี้ กล่าว “นี่ไม่ใช่ประเด็นที่เราสนใจเลย”

มันเกี่ยวเนื่องกัน! “เบนิเตซ” เผยอดีตกับ ลิเวอร์พูล ทำให้คุม เอฟเวอร์ตัน ล้มเหลว

มันเกี่ยวเนื่องกัน! “เบนิเตซ” เผยอดีตกับ ลิเวอร์พูล ทำให้คุม เอฟเวอร์ตัน ล้มเหลว

ราฟา เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน ผู้เคยประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล เมื่อครั้งอดีต เปิดอกกับ สกาย สปอร์ตส์ ชี้ว่า ด้วยประวัติดังกล่าวทำให้เขาไม่สามารถคุมทัพ เอฟเวอร์ตัน ได้อย่างที่วางแผนเอาไว้ เมื่อถูกตะเพิดออกจากถิ่นกูดิสัน พาร์ก ให้หลังจากเข้ารับตำแหน่งเพียง 6 เดือนเท่านั้น

“เอล ราฟา” เคยพาหงส์แดงคว้า 3 เมเจอร์โทรฟีระหว่างปี 2004-2010 ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งกุนซือท็อฟฟี่สีน้ำเงินเมื่อซัมเมอร์ 2021 แต่กลับแยกทางกับ เดอะ บลูส์ ให้หลังจากนั้นเพียง 6 เดือนจากผลงานในสนามที่ย่ำแย่ โดย เบนิเตซ เปิดอกกับสื่อแดนผู้ดีระบุว่าไม่เสียใจที่รับตำแหน่งดังกล่าวกับอริของ เรด แมชีน แต่ยอมรับว่าไม่อาจตัดสินใจฟันธงในบางเรื่องกับ เอฟเวอร์ตัน ได้เนื่องจากอดีตที่เขามีติดตัวกับ ลิเวอร์พูล

“เมื่อครั้งที่ เอฟเวอร์ตัน ยื่นข้อเสนอมาให้กับผม ผมรู้ว่าจะทำให้เต็มที่และทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างพัฒนาการให้กับทีม” เบนิเตซ กล่าว

“ผมตระหนักดีว่ามันจะเป็นเรื่องลำบากพอสมควร เพราะผมเคยอยู่กับ ลิเวอร์พูล มาก่อน มันอาจจะทำให้ผมไม่สามารถตัดสินใจเรื่องบางเรื่องได้ ปัญหานี้มันชัดเจนตั้งแต่ต้น”

“ผมได้มีประชุมกับหนึ่งในหัวหน้าทีมงาน ผมถามเขาว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไหม เขาตอบกลับมาว่า ใช่ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมกลับคิดว่าทีมถลุงเงินไปตั้ง 600 ล้านปอนด์ มันจะราบรื่นได้อย่างไรเมื่อเจ้าของสโมสรไม่พอใจ แฟนบอลของเราก็ไม่พอใจ”

“ผมตระหนักทันทีว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากภายใน แต่ผมไม่สามารถทำได้ทันที เพราะเคยคุมทีม ลิเวอร์พูล มาก่อน พวกเขามีความรู้สึกว่าผมจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสร”

“กับอีกทีมหนึ่งที่ไม่ใช่พวกเขา ผมสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในสโมสรได้ ผมเคยทำมาแล้วเมื่อในอดีตเพราะผมตระหนักดีถึงการพัฒนาการที่จะเกิดขึ้น แต่กับ เอฟเวอร์ตัน ผมไม่สามารถทำได้”

ต้องจัดอีก 2 ตำแหน่ง! “คาราเกอร์” แนะ ลิเวอร์พูล ซื้อเพิ่มสร้างทีมสำหรับอนาคต

ต้องจัดอีก 2 ตำแหน่ง! “คาราเกอร์” แนะ ลิเวอร์พูล ซื้อเพิ่มสร้างทีมสำหรับอนาคต

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกโรงให้คำแนะนำแก่ทีมรักว่าหลังจบฤดูกาลนี้ จำเป็นต้องซื้อนักเตะระดับท็อปที่อายุน้อยๆ เข้ามาเพิ่มอีก 2 ตำแหน่งเพื่อสร้างขุมกำลังไว้ครองความยิ่งใหญ่ต่อเนื่องในอนาคต

“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ลิเวอร์พูล จะต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ยากและมีความสำคัญสุดๆ ต่ออนาคตสโมสร เพราะนักเตะหลักหลายๆ คนอายุเริ่มเยอะขึ้นแล้ว แต่เรายังไม่มีดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนได้มากพอ” คาร์ร่า กล่าวกับ Sky Sports

“ทีมที่สามารถยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดได้ต่อเนื่องยาวนานต้องมีส่วนผสมของนักเตะเก่งๆ หลายช่วงอายุ เพราะหากปล่อยให้ตัวหลักเข้าสู่ช่วงโรยราไล่ๆ กันหมดโดยไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า นั่นคือปัญหาใหญ่แน่นอน”

“อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ได้ซื้อ โชต้า กับ โคนาเต้ เข้ามาวางรากฐานไว้ก่อนแล้ว ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถึงกระนั้นในตำแหน่งของ 3 ประสานแดนหน้านั้นก็ยังจำเป็นต้องหาเพิ่มอยู่ดี”

“ซาลาห์, มาเน่, ฟีร์มิโน่ เป็นสามกองหน้าที่มีอายุไล่เลี่ยกัน และพวกเขาก็จะแตะหลัก 30 ในเร็วๆ นี้ แต่ด้วยความที่ทั้งหมดยังอยู่ในช่วงฟอร์มดี คล็อปป์ ไม่มีความจำเป็นต้องหาใครมาแทนทันที แต่หลังจบฤดูกาลนั่นแหละคือช่วงที่เขาต้องกล้าตัดสินใจ ซึ่งทั้งตำแหน่งในแดนหน้า และตำแหน่งกองกลางเองก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน”

ท่านี้มันมีที่มา! “ฟีร์มีโน่” ฉลองหลังกดแฮตทริกเกมถล่ม วัตฟอร์ด

ท่านี้มันมีที่มา! “ฟีร์มีโน่” ฉลองหลังกดแฮตทริกเกมถล่ม วัตฟอร์ด

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวยิงตัวเก่งของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จัดการกดแฮตทริกได้ในเกมที่ต้นสังกัดบุกไปรัวถล่ม “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด แบบสุดยับเยิน 5-0 ในการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยหลังจากที่ ดาวยิงแซมบ้าวัย 30 ปี ยิงประตูที่สามในเกมนี้ได้สำเร็จ เจ้าตัวก็จัดการวิ่งไปเก็บลูกบอลมายัดไว้ใต้เสื้อ ถือเป็นท่าดีใจที่ไม่คุ้นตาสำหรับแฟนบอล หลังก่อนหน้านี้มักจะฉลองท่าดีใจด้วยการใช้มือปิดตาข้างหนึ่งอันเป็นจุดขายของเจ้าตัว

ซึ่งท่าดีใจที่ ฟีร์มีโน่ ทำในการฉลองแฮตทริก มันคือการบอกข่าวดีให้กับแฟนบอลได้รับรู้ว่าเจ้าตัวกำลังจะเป็นคุณพ่อลูกสาม หลัง ลาริสซ่า เปเรร่า แฟนสาวที่กำลังตั้งท้องลูกคนที่สามอยู่ในตอนนี้

งานนี้ต้องมาลุ้นกันว่าลูกคนที่สามของ แข้งบราซิล จะเป็นเพศหญิง หรือเพศชาย เพราะที่ผ่านมา เจ้าตัวมีพยานรักเป็นลูกสาวสุดน่ารัก 2 คน วาเลนติน่า และ เบลล่า

เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มก่อตัวเมื่อปี 2014 สมัยที่เจ้าตัวยังเป็นนักเตะในสังกัดของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในบุนเดสลีกา เยอรมนี จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตร่วมกันก่อนเข้าพิธีแต่งงานกันไปเมื่อปี 2017

สำหรับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีสถิติลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทั้งหมดรวมทุกรายการจนถึงตอนนี้ 299 นัด ทำไปได้ 93 ประตู และอีก 70 แอสซิสต์ ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมป์ยูฟ่า ชปล. และแชมป์สโมสรโลก

“ซาลาห์” ผงาดท็อป 10 ดาวยิงตลอดกาลหงส์แดง

“ซาลาห์” ผงาดท็อป 10 ดาวยิงตลอดกาลหงส์แดง

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงชาวอียิปต์ ขยับเข้าไปอยู่ในท็อป 10 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของลิเวอร์พูล

ความเคลื่อนไหวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่งชาวอียิปต์ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล หลังเจ้าตัวสามารถทำประตูได้ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่เสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 3-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โดยประตูดังกล่าว เป็นประตูที่ 131 จากการลงสนาม 210 เกม ของเขานับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับหงส์แดงในปี 2017 ทำให้เขาแซงแซม เรย์บาวด์ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 10 ดาวยิงที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

สำหรับ 10 อันดับดาวยิงตลอดกาลของลิเวอร์พูล มีดังนี้
1.เอียน รัช – 346ประตู
2.โรเจอร์ ฮันท์-285ประตู
3.กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน– 241ประตู
4.บิลลี่ ลิดเดลล์– 228ประตู
5.สตีเวน เจอร์ราร์ด– 186ประตู

  1. ร็อบบี ฟาวเลอร์-183ประตู
  2. เคนนี ดัลกลิช- 172ประตู
    8.ไมเคิล โอเว่น- 158ประตู
    9.แฮร์รี แชมเบอร์ส – 151 ประตู
    10.โมฮาเหม็ด ซาลาห์– 131ประตู

5 เรื่องต้องรู้ของ “อิบราฮิมา โคนาเต้” ว่าที่ปราการหลังคนใหม่ของหงส์แดง

5 เรื่องต้องรู้ของ “อิบราฮิมา โคนาเต้” ว่าที่ปราการหลังคนใหม่ของหงส์แดง

หากไม่มีอะไรผิดพลาด อิบราฮิมา โคนาเต้ กำลังจะกลายมาเป็นผู้เล่นคนใหม่ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลหน้า หลังจากที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน รายงานว่าสโมสรจากแถบเมอร์ซีย์ไซด์ยินดีที่จะจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาประมาณ 34 ล้านปอนด์ให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ต้นสังกัดของแข้งชาวฝรั่งเศส วัย 21 ปร เพื่อเสริมแกร่งในแนวหลังและพยายามป้องกันไม่ให้มีฤดูกาลอันย่ำแย่ซ้ำรอยเดิมแบบในซีซั่นนี้อีก

และนี่คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ โคนาเต้

  1. ตำแหน่งและสไตล์การเล่น

โคนาเต้ เป็นกองหลังยุคใหม่ที่มีความสามารถในการพาบอลขึ้นไปข้างหน้าโดยที่ตำแหน่งของเขามักจะอยู่ที่ฝั่งขวาทั้งในแผน 2 และ 3 เซ็นเตอร์

ด้วยความสูงที่ 193 เซนติเมตร เทียบเท่ากับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เขาจึงชนะการดวลกลางอากาศเป็นจำนวนมาก และด้วยร่างกายที่กำยำการเข้าปะทะจึงเป็นอีกจุดแข็งของเขาไปโดยปริยาย

  1. ต้องระวังเรื่องอาการบาดเจ็บ

แม้จะเพิ่งอายุ 21 ปี แต่โคนาเต้มาพร้อมกับประวัติการบาดเจ็บที่โชกโชนซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเล็กน้อย

ในช่วงที่ยังอยู่กับอะคาเดมีของโซโชซ์ เขาจำต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่สะโพก ก่อนที่ในฤดูกาล 2019/20 เขาจะต้องเข้ารับการผ่าตัดซ้ำอีกถึง 2 ครั้งในด้วยอาการเดิม จนทำให้สามารถลงสนามไปได้เพียง 8 เกมเท่านั้น

ในขณะที่ฤดูกาลนี้ เจ้าตัวต้องพักฟื้นจากอาการเจ็บข้อเท้าไปอีก 2 เดือนด้วยกัน

  1. ภาษาไม่ใช่ปัญหา

โคนาเต้ยอมรับว่าลำบากเล็กน้อยเรื่องการเรียนภาษาเยอรมันในช่วงแรกๆที่ย้ายมายังไลป์ซิก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ผ่านมันมาได้ แถมในตอนนี้เจ้าตัวมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่เข้าขั้นดีอยู่แล้ว จนเกือบจะเหมือนกับว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกยังไงยังงั้นเลย

  1. ความเร็วเป็นเลิศ

ราล์ฟ รังนิค อดีตผู้อำนวยการสโมสรไลป์ซิกเคยเปิดเผยว่า โคนาเต้เป็นผู้เล่นที่เร็วที่สุดในทีมหากนับเฉพาะการสปรินต์ระยะ 100 เมตร ดังนั้น มันจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาหากเขาต้องดวลกับเหล่าตัวรุกความเร็วสูงในเกาะอังกฤษ

  1. มี เซร์คิโอ รามอส เป็นไอดอล

การยอมรับว่ามี เซร์คิโอ รามอส เป็นไอดอลอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนักในลิเวอร์พูล เมื่อมองย้อนกลับไปว่าว่าแข้งชาวสเปนเคยมีประวัติไม่ค่อยดีกับซูเปอร์สตาร์ในทีมมาก่อน

แต่หากมองในแง่ดี นั่นหมายถึงว่า โคนาเต้เลือก 1 ในผู้เล่นกองหลังที่สุดในโลกไว้เป็นแบบอย่าง พร้อมกับยังเคยยอมรับว่าได้ศึกษาสไตล์การเล่นของ เคราร์ด ปิเก อีกหนึ่งกองหลังชื่อดังชาวสเปนอยู่ตลอดเพื่อหวังที่จะพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอีกด้วย